อุปกรณ์ปรับระดับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ |
Energy Saving Regulator หรือ ESR |
ESR เป็นอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยการรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมและคงที่ ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุดถึง 20 % โดยการลดค่าพลังงานที่สูญเสียไป โดยไม่จำเป็นอันเนื่องมาจากได้รับระดับแรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินความต้องการ และไม่คงที่ นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักรหรืออุปกณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ใช้ในโรงงานได้อีกด้วย |
โดยหลักการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์เหนี่ยวนำ 3 เฟส ส่วนที่เคลื่อนที่จะพันด้วย ขดลวดและจะเคลื่อนที่ด้วยมือหมุนหรือมอเตอร์อีกตัวหนึ่ง เพื่อเป็นการควบคุมแรงดันด้านนอก มีลักษณะการทำงานคล้ายกับชนิดหม้อแปลง แปรค่าได้ด้วยมอเตอร์ แต่จะไม่มีการสัมผัสของขดลวดทั้งสองขด ซึ่งเหมือนกับมีการเพิ่มเติมการทำงานของหม้อแปลงชนิด Isolation Transformer เข้าไปด้วย ทำให้สัญญาณรบกวนต่างๆ รวมถึง Harmonicบางส่วนไม่สามารถผ่านไปได้เป็นการปรับปรุงคุณภาพไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น ป้องกันปัจจัยที่เป็นปัญหาทางไฟฟ้า ที่มีผลกับคุณภาพของระบบไฟฟ้าได้ เช่น Transient , Surge , Dips , Inrush current , แรงดันตกช่วงสั้น (Voltage sag) ,แรงดันเกินช่วงสั้น (Voltage swell) , แรงดันตก (Under voltage) ,แรงดันเกิน (Over voltage) , สัญญาณรบกวน (Noise) เป็นต้น | |
คลิก : หลักการทำงาน อุปกรณ์ ESR
|
รูปแสดงหลักการทำงานของอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ESR |
ไดอะแกรมการทำงานของเครื่อง ซึ่งประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังต่อไปนี้ |
1. ขดลวดสเตเตอร์ เป็นขดลวดชนิดไม่เคลื่อนที่ทำหน้าที่รับแรงดันทางด้านเข้า |
2. ขดลวดโรเตอร์ คือ ขดลวดที่มีการเคลื่อนที่ เพื่อทำการปรับแรงดันด้านออกให้คงตามค่าที่ตั้งไว้ และไม่มีส่วนที่สัมผัส |
กับขดลวดสเตเตอร์ การทำงานของขดลวดนี้เปรียบเสมือนการปรับอัตราส่วน (Ratio) ของหม้อแปลงแบบอัตโนมัติ |
และมีการควบคุมการหมุนโดยมอเตอร์หรือ แกนหมุนชนิดมือหมุน |
3. มอเตอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำการควบคุมทิศทางและระยะการหมุนของขดลวดโรเตอร์ |
4. ชุดควบคุมมอเตอร์และอุปกรณ์ตรวจจับแรงดันด้านออก เป็นอุปกรณ์ประเภทเซ็นเซอร์ ที่ทำหน้าที่ตรวจจับแรงดันด้านออก |
เพื่อส่งไปเปรียบเทียบกับค่าที่ทำการตั้งไว้หากมีค่าไม่ตรงหรือเปลี่ยนแปลงจากค่าที่ตั้งไว้จะสั่งงานให้มอเตอร์หมุน |
ปรับขดลวดโรเตอร์ เพื่อควบคุมแรงดัน |
|
ประโยชน์ของอุปกรณ์ ESR |
|
1. ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าทั้งระบบโดยรวม 5-15 % |
2. เพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายกำลังงานไฟฟ้าของหม้อแปลงให้ดียิ่งขึ้น |
3. ลดความสูญเสียอันเนื่องมาจากสัญญาณ Harmonic |
4. ยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า |
5. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไฟฟ้า |
6. ช่วยชาติอนุรักษ์พลังงานและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ |
7. สามารถควบคุมและรักษาระดับแรงดันให้คงที่ |
|
คุณสมบัติที่สำคัญของอุปกรณ์ ESR |
|
1. สามารถรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ ที่ 380 VAC ±1% |
2. ลดกระแสไฟฟ้าที่พุ่งสูงในช่วงเวลาที่เปิดสวิทช์เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงาน |
3. ลดทอน Harmonic และขจัด Noise ในสายส่งกำลัง |
4. มีชุดป้องกันฟ้าผ่า (Surge Protection) |
5. มีชุดป้องกันแรงดันตกและแรงดันเกิน |
6. สะดวกและง่ายในการซ่อมบำรุง |
7. อุปกรณ์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงต่ำ |
8. มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 200 kVA - 2,000 kVA |
9. ใช้ได้กับไฟฟ้าระบบ Three phase ในโรงงานอุตสาหกรรม |
10. สามารถเลือกแรงดันให้เหมาะกับโรงงานได้ |
เช่น 200VAC, 220VAC, 380VAC, 400VAC และ440VAC |
11. เหมาะสำหรับโรงงานที่มีเครื่องจักร CNC, SMT |
Medical equipment, Precise instruments, etc. |
|